หญ้า (Lawn) เป็นพืชล้มลุก ปกคลุมดิน จึงนิยมปลูกประดับสวนหย่อม ตกแต่ง เพื่อให้ความร่มรื่น สวยงาม สบายตา สบายใจ นอกจากนี้ สนามหญ้า ยังเพิ่มมูลค่าให้กับสถานที่นั้นๆให้ดูแพงขึ้นอีกด้วย เช่น บ้านจัดสรร โรงแรม รีสอร์ท สนามกอล์ฟ เป็นต้น
อยากได้สวนสวยๆ ปลูกหญ้าอะไรดี?
สายพันธุ์ที่นิยมปลูกทำสนามหญ้า นั้นมีหลากหลายสายพันธุ์ และมีข้อดี ข้อเสีย แตกต่างกันไป แต่ในบทความนี้ จะแนะนำเฉพาะหญ้าที่ได้รับความนิยมปลูกตกแต่งสวน ซึ่งมีอยู่ 5 สายพันธุ์ ดังนี้
1.หญ้านวลน้อย
หญ้านวลน้อย (Manila Grass) เป็นหญ้าพื้นเมืองของประเทศไทย จึงเป็นหญ้าที่นิยมปลูกมากที่สุด หญ้านวลน้อยมีลักษณะใบสีเขียวอ่อน รูปร่างอาจจะคล้ายๆกับหญ้าญี่ปุ่น แต่ลักษณะของใบจะกว้างกว่า นุ่มกว่า ไม่ระคายผิวหนัง หญ้าชนิดนี้เติบโตได้ดีกับทุกสภาพดิน ทนต่อสภาพอากาศร้อน ไม่ว่าจะแห้งแล้ง หรือว่าสภาพแฉะมีน้ำท่วมขังเป็นครั้งคราว ก็สามารถเจริญเติบโตได้ ทนต่อการเหยียบย่ำ ต้องการแสงแดดปานกลาง และดูแลง่ายกว่าหญ้าชนิดอื่นๆ
2.หญ้ามาเลเซีย
หญ้ามาเลเซีย (Tropical Carpet) หรือที่นิยมเรียกกันว่า หญ้ามาเลย์ หญ้าชนิดนี้มีความสูงประมาณตั้งแต่ 5 เซ็นติเมตร ไปจนนถึง 1 ฟุตเลย ลำต้นมีข้อปล้องที่ชัดเจน ใบใหญ่มีสีเขียวเข้ม กว้างประมาณ 1-2 เซ็นติเมตร ขอบใบหยักเป็นคลื่นเล็กๆ เวลาแก่จะออกดอกเป็นช่อ หญ้ามาเลย์นี้ค่อนข้างจะดูแลง่าย สามารถเจริญเติบโตได้กับดินทุกชนิด โตเร็วมาก ต้องการแสงไม่มากเท่ากับหญ้าประเภทอื่น สามารถปลูกใต้ร่มไม้ใหญ่ หรือปลูกใต้ชายคาบ้านได้ ต้องการน้ำเยอะ จึงนิยมปลูกตามสถานที่ต่างๆ อย่างแพร่หลาย
3.หญ้าญี่ปุ่น
หญ้าญี่ปุ่น (Japanese Lawn Grass) มีถิ่นกำเนิดมาจากแถบๆเหนือของจีน และแถวๆคาบมหาสมุทรเกาหลี โดยจะมี 2 สายพันธุ์ คือ ชนิดใบกว้างและใบเล็กกลม หญ้าญี่ปุ่น ดูแลยากพอประมาณ เนื่องจากเป็นต้นเล็กสวยงาม จึงต้องหมั่นตัดแต่งอยู่บ่อยๆ พื้นที่ๆปลูกก็ควรมีแสงแดดส่องถึงค่อนข้างจัด หญ้าญี่ปุ่น ข้อเสียคือไม่ควรปลูกในที่ลุ่มน้ำท่วมขัง
4.หญ้าเบอร์มิวด้า
หญ้าเบอร์มิวด้า หรือหญ้าแพรก (Bermuda Grass) ลักษณะของลำต้นมีลักษณะแบนและเล็ก แตกกิ่งใบปกคลุมดิน ซึ่งใบนั้นสีเขียวเข้ม หญ้าชนิดนี้โตได้ดีในทุกสภาพดิน ต้องการความชื้นในดินสูง ต้องขยันตัดแต่งให้สั้นอยู่ตลอด เพราะเขาโตเร็วมาก ประมาณว่าเป็นวัชพืชดีๆนี่เอง ดังนั้น เรื่องความทนทาน ไม่ต้องห่วง จึงนิยมปลูกในนามกอล์ฟ สนามกีฬาฟุตบอล สนามเด็กเล่น หรือปลูกตามขอบริมถนน เพื่อป้องกันการพังทลายของหน้าดิน
5.สนามหญ้าไทเป
หญ้าไทเป (Broadleaf Carpet Grass) หรือเรียกอีกชื่อ คือ หญ้ามาเลเซียแคระ หน้าตาจะคล้ายๆกันกับหญ้ามาเลเซียเลย การแผ่ใบนั้นเขาจะแผ่ออกด้านข้างขนานไปกับพื้นดิน จึงไม่ต้องมีการตัดแต่งเหมือนหญ้าชนิดอื่นๆ ปลูกได้ทั้งที่ร่ม และกลางแจ้ง ค่อนข้างเจริญเติบโตดีได้เกือบทุกสภาพดิน เรียกว่าดูแลง่าย ใครไม่ชอบตัดหญ้า ก็แนะนำปลูกหญ้าไทเปเลย
ดูแลสนามหญ้าหน้าบ้านให้เขียวทั้งปีทำยังไง?
1.เลือกพันธุ์หญ้าให้เหมาะสถานที่
เพื่อให้การดูแลง่าย สิ่งแรกที่ต้องพิจารณาคือ เลือกประเภทหรือสายพันธุ์ของหญ้าให้เหมาะกับบริเวณพื้นที่ที่จะปลูก เพราะหญ้าแต่ละชนิด มีความต้องการแสงแดด ความชื้น และการดูแลเอาใจใส่ที่แตกต่างกัน
2.การรดน้ำ
ในการดูแลนั้น มักมีคำถามที่พบอยู่บ่อยๆ คือ สนามหญ้าต้องรดน้ำทุกวันไหม? รดน้ำบ่อยแค่ไหน? ตอบให้ชัดเจนตรงนี้เลยว่า แนะนำให้รดน้ำ เช้า-เย็น 2 เวลา (ยกเว้นหน้าร้อนจะเพิ่มตอนเที่ยงอีกรอบก็ยังได้) ทีนี้จะแตกต่างกันตรงที่ปริมาณน้ำของหญ้าแต่ละชนิดไม่เท่ากัน ถ้าใครใช้ระบบตั้งเวลารดน้ำอัตโนมัติ ก็จะปรับเวลาแตกต่างกันไป เช่น หญ้ามาเลเซียก็ใช้เวลานานกว่าหญ้าญี่ปุ่น และหญ้าเบอร์มิวด้า เป็นต้น แต่โดยรวม คือให้น้ำวันละ 2 รอบเท่ากัน
3.การดูแลสนามหญ้าต้องหมั่นให้ปุ๋ย และกำจัดศัตรูพืช
โดยทั่วไปแล้วจะนิยมให้ปุ๋ยยูเรียเป็นหลัก แต่ปัญหาที่พบอยู่บ่อยๆ ที่เราต้องเข้าไปแก้ปัญหาคือหลังจากการใช้ปุ๋ยยูเรีย หญ้าจะงามไปพักนึง จากนั้นจะเริ่มใบแห้ง มีเพลี้ย เชื้อรา ระบาด ต้นหญ้าจะแห้งๆมีขอบใบไหม้ ประกอบกับบางบ้าน หรือบางพื้นที่มีสัตว์เลี้ยง มีเด็กเล็ก ไม่ต้องการใช้สารเคมี
ผลิตภัณฑ์ของอีเรฟ (erev) จึงเป็นสินค้าที่ทางลูกค้าที่เป็นบ้านจัดสรร โรงแรม รีสอร์ท และสนามกอล์ฟ ใช้เป็นประจำ และใช้กันอย่างแพร่หลาย
- โดยขวดสีแดง จุลินทรีย์กำจัดเพลี้ย เชื้อรา เร่งการแตกราก
- ขวดสีเขียว จุลินทรีย์ธาตุอาหารพืช
โดยจะใช้ทั้งสองขวด ผสมน้ำฉีดพ่นทุกๆ 2 สัปดาห์ แค่นี้หญ้าก็งามและมีสีเขียวสดใส ง่ายๆ อย่างที่เราเห็น ว่าทำไมโรงแรม สีสอร์ท หรือบ้านจัดสรร ถึงได้ดูงามตาจัง นั่นเป็นเพราะเขาเลือกใช้อีเรฟฉีดพ่นเป็นประจำ ซึ่งตรงนี้คนสวนชอบ เพราะเวลาฉีดพ่นไม่ต้องสวมอุปกรณ์ป้องกัน ไม่มีสารเคมี ไม่อันตรายต่อคน และสัตว์เลี้ยง อีกด้วย
4.การตัดแต่งสนามหญ้า
การตัดแต่งสนามหญ้า ส่วนใหญ่จะตัดแต่งกันทุกๆ 2-3 เดือน/ครั้ง ยกเว้น หญ้าไทเปเท่านั้น ที่ไม่ต้องตัดแต่ง แต่ยังต้องดูแลให้เขาเจริญงอกงาม ด้วยการให้ปุ๋ยและเร่งการแตกรากอยู่เป็นประจำ
สนามหญ้าหน้าบ้าน มีประโยชน์อย่างไรบ้าง?
การปลูกสนามหญ้าโรงเรียน หน้าบ้าน ในโรงแรม ในรีสอร์ท หรือที่ไหนๆก็ตามนั้น มีประโยชน์ต่างๆ มากมาย อาทิ ให้ความร่มรื่น รักษาความชื้นในพื้นที่ ลดความร้อนรอบอาคาร ช่วยยึดหน้าดิน รักษาหน้าดิน ช่วยดักฝุ่น
เห็นไหมครับการปลูกหญ้านั้นมีประโยชน์มากมาย ข้อเสียอาจจะเป็นแค่เรื่องค่าใช้จ่ายในการดูแล บำรุงรักษา แต่ก็เคยมีคนเปรียบเทียบค่าใช้จ่าย ปูหญ้าสวนข้างบ้านดีกว่าเทปูน ลองไปอ่านดูที่กระทู้ใน pantip ได้
ทั้งนี้ หากมีงบประมาณ และไม่ได้ต้องการความร่มรื่นจากธรรมชาติจริงๆ ก็อาจจะทำสนามหญ้าเทียม ไปเลยก็ได้ ไม่ต้องดูแลให้ยุ่งยากในภายหลัง แต่ควรพิจารณาเลือกหาช่าง หรือผู้รับเหมาปูสนามหญ้าเทียมดีๆ เพราะบางพื้นที่จะมีพวกแห้วหมู และวัชพืชอื่นๆโผล่มาบนหญ้าเทียมได้