การปลูกกุหลาบนั้น คนรักต้นไม้ที่ชื่นชอบการจัดสวน ตกแต่งสวน มักจะเลือกปลูกกุหลาบเพราะดอกสวยงาม มีกลิ่นที่หอม แค่ได้มอง สูดดมกลิ่น ก็รู้สึกสดชื่น ผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี
แต่สิ่งหนึ่งที่คนปลูกกุหลาบมักจะต้องเจอคือศัตรูพืชระบาด อาทิ เพลี้ยอ่อน เพลี้ยงแป้ง เพลี้ยไฟ ไรแดงกุหลาบ เชื้อราต่างๆ ที่เรียกรวมอาการว่า “โรคกุหลาบ” นั่นเอง
แม้ผู้ปลูกจะสรรหาวิธีกำจัดศัตรูพืช สารพัดรูปแบบ เช่น ฉีดยากันรา น้ำส้มสายชูกำจัดเพลี้ย ใช้น้ำสัมควันไม้ หรือแม้แต่สารเคมีแรงๆก็ไม่ได้ผล จนต้องถอดใจ เลิกปลูกกันหลายคนแล้ว
ในบทความนี้ จะแนะนำวิธีกำจัดเพลี้ยในกุหลาบแบบธรรมชาติ ปลอดสารเคมี แต่ได้ผลดี รวมถึงวิธีป้องกันที่ต้นเหตุด้วย เรียกว่าอ่านบทความเดียวรู้เกี่ยวกับการดูแลต้นกุหลาบได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
เชื้อรา เพลี้ย เกิดจากอะไร มาจากไหน?
ก่อนที่จะหาวิธีการกำจัดเพลี้ย เชื้อราในกุหลาบ เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า เพลี้ยคืออะไร และมีสาเหตุจากอะไรบ้าง เพลี้ยเป็นแมลงศัตรูพืชที่มีขนาดเล็ก และสามารถเกิดการระบาดได้ง่ายในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น การปลูกในที่ที่มีความชื้นสูงหรือมีการระบายอากาศไม่ดี นอกจากนี้ เพลี้ยยังสามารถเดินทางจากต้นไม้หนึ่งไปยังอีกต้นไม้หนึ่งได้โดยมีกระบวนการขนส่งตามธรรมชาติ เช่น ลมและแมลงที่บินไปมา และที่พบบ่อยมาก คือ เพลี้ย เชื้อรา มักติดมากับต้นไม้ใหม่ๆที่เราซื้อมาจากฟาร์ม
โดยเฉพาะในต้นกุหลาบที่มีดอกและใบอ่อนกระจายอยู่มาก เพลี้ยจะใช้ส่วนต่างๆ เหล่านี้ในการกินน้ำเลี้ยง ทำให้เกิดควาามเสียหาย หรือแม้กระทั่งทำให้ต้นกุหลาบเหี่ยวเฉา ใบไหม้ และตายได้ ดังนั้น การสังเกตุสัญญาณของการระบาดตั้งแต่เนิ่นๆ จึงจะช่วยให้เรารักษาได้ทันท่วงที
การกำจัดเพลี้ยอ่อนตั้งแต่แรก ลดการระบาดได้ 80%
ควรหมั่นตรวจสอบใบ ลำต้น และตาดอกเป็นประจำ ว่ามีเพลี้ยอ่อนหรือไม่ มองหาแมลงขนาดเล็กสีเขียว สีดำ หรือสีเหลือง และสิ่งตกค้างที่เหนียว (น้ำหวาน)
เพราะการมองข้ามการระบาดเล็กๆ น้อยๆ ก็จะขยายตัวอย่างรวดเร็วได้หากไม่ได้รับการแก้ไขในระยะเริ่มแรกซึ่งการศึกษาวิจัยจาก Entomological Society of America ระบุว่า การกำจัดเพลี้ยอ่อนได้ในระยะเริ่มต้น จะสามารถลดการระบาดได้ถึง 80%
งดใช้เคมี ลดการระบาดของศัตรูพืช
การไม่ใช้เคมี อาทิ ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าหญ้า ยาฆ่าแมลง ก็เท่ากับเป็นการส่งเสริมให้มีแมลงดีมีประโยชน์ เช่น
- เต่าทอง
- แมลงตัวห้ำ
- เบียน
- แมลงผีเสื้อ
ซึ่งเป็นแมลงที่ล่าเพลี้ยอ่อนโดยธรรมชาติ รวมทั้งต้องปลูกพืชพันธุ์ที่หลากหลายในสวน เพื่อให้แมลงเหล่านี้มาอยู่อาศัย ที่สำคัญห้ามใช้พวกยาฆ่าแมลงแบบกว้างสเปกตรัม เพราะแมลงที่ดีมีประโยชน์ก็จะถูกกำจัดไปด้วย จากการวิจัยของ Natural Resources Defense Council แสดงให้เห็นว่าการส่งเสริมแมลงที่มีประโยชน์สามารถลดปริมาณของเพลี้ยอ่อนได้ถึง 90%
5 วิธีกำจัดเพลี้ยในกุหลาบแบบธรรมชาติ มีอะไรบ้าง?
การกำจัดเพลี้ยอ่อน เพลี้ยแป้ง เพลี้ยไฟ (Thrips) ที่มักจะเป็นศัตรูพืชที่รบกวนสวนกุหลาบนั้น สามารถใช้วิธีธรรมชาติ ปลอดภัย โดยไม่ต้องพึ่งพาสารเคมีที่อาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของผู้ปลูกได่
นี่คือวิธีการที่คุณสามารถใช้ในการกำจัดเพลี้ยในกุหลาบ:
1. ใช้ศัตรูธรรมชาติจัดการ
ตามที่แนะนำข้างต้น ใช้ศัตรูธรรมชาติ เช่น แมลงเต่าทอง มาช่วยจัดการเพลี้ย โดยเขาจะกินเพลี้ย ดังนั้นการดึงดูดแมลงดีมีประโยชน์เข้ามาในสวนกุหลาบ ถือเป็นการลงทุนระยะยาวที่ให้ผลดี โดยเราสามารถปลูกต้นไม้อื่นๆที่จะช่วยดึงดูดแมลงเหล่านั้น
2. การใช้สารสกัดจากพืช
พืชบางชนิดมีสารเคมีธรรมชาติที่สามารถช่วยลดจำนวนเพลี้ยได้ เช่น สารสกัดจากพืชที่มีสารฟิโพรนิล หรืออะซีเฟท ที่พบในพืชบางสายพันธุ์ นอกจากนี้ยังมีการใช้สกัดจากกระเทียม หัวหอม หรือพริกขี้หนู ที่มีคุณสมบัติต่อต้านแมลง โดยการผสมสารสกัดเหล่านี้ในน้ำ และพ่นลงไปที่พืช จะช่วยลดโอกาสที่เพลี้ยจะระบาดได้
3. ใช้น้ำสบู่หรือน้ำยาล้างจานซันไลต์
น้ำสบู่ หรือน้ำยาล้างจาน เป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการกำจัดเพลี้ย
- ผสมน้ำสบู่ประมาณ 1-2 ช้อนชาในน้ำ 1 ลิตร
- ฉีดพ่นลงบนใบกุหลาบที่มีเพลี้ย
- จำไว้ว่าต้องทำซ้ำทุก 5-7 วันเพื่อให้ได้ผลที่ดียิ่งขึ้น
4. วิธีกำจัดเพลี้ยในกุหลาบแบบธรรมชาติด้วยน้ำส้มสายชู
ใน pantip.com ได้มีคนเคยตั้งกระทู้ถามว่า “น้ำส้มสายชูกำจัดเพลี้ยได้ไหม” เราเลยแนะนำการกำจัดเพลี้ยด้วยน้ำส้มสายชูผสมกับน้ำในสัดส่วน 1:3 (น้ำส้มสายชู 1 ส่วน น้ำ 3 ส่วน)
- ผสมแล้วเทลงในขวดสเปรย์ เพื่อใช้งานได้ง่าย
- หมั่นฉีดพ่นสารละลายนี้ลงบนใบและลำต้นของต้นกุหลาบ โดยเฉพาะบริเวณที่มีอาการมีเพลี้ยไฟหรือไรแดงเกาะอยู่
- ควรทำในช่วงเช้าหรือเย็นเพื่อหลีกเลี่ยงการเผาไหม้ของใบจากแสงแดด
- หลังจากฉีดพ่นไปแล้วประมาณ 2-3 วัน ควรตรวจสอบว่ามีการลดลงของเพลี้ยหรือไม่
- ถ้ายังมีอยู่ควรทำซ้ำในระยะเวลาประมาณ 5-7 วัน
น้ำส้มสายชูมีคุณสมบัติในการทำลายแมลงบางชนิด ไม่ควรใช้ในเวลาที่อากาศร้อนจัด เนื่องจากาจทำให้ใบไหม้ได้
5. การใช้จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์
การนำจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์เข้ามาช่วยควบคุมจำนวนเพลี้ยอ่อน เพลี้ยแป้ง เพลี้ยไฟ ไรแดง และเชื้อราต่างๆ เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ได้ผลดี เพราะใช้แบคทีเรียหรือเชื้อราที่มีคุณสมบัติในการกำจัดแมลงศัตรูพืชเข้าจัดการกันเอง และเป็นวิธีที่ปลอดภัยต่อพืชและสิ่งแวดล้อมมากที่สุด
ใครๆก็ใช้ “อีเรฟ” จุลินทรีย์กำจัดเพลี้ย เชื้อรา แมลงศัตรูพืช
การดูแลกุหลาบช่วงที่โรคและศัตรูพืชระบาดก็จะปวดหัวกว่าการปลูกต้นไม้อย่างอื่น เพราะไม้ดอกเป็นที่โปรดปราณของศัตรูพืช และเชื้อรา
การแก้ปัญหาเวลาต้นไม้ใบเหลือง ใบเหี่ยวแห้ง ก็จะแก้ตามชุดความรู้ที่มี คือ ใช้น้ำส้มควันไม้ฉีด ใช้นำ้สัมสายชู ใช้น้ำยาล้างจานก็ไม่หาย และไปจบท้ายด้วยยาเคมี แต่ก็ไม่ได้ผล หนำซ้ำยังทำให้ต้นกุหลาบอ่อนแอลงไปอีก
แต่พอคนรักกุหลาบ และฟาร์มกุหลาบออแกนิคทั่วประเทศได้ทดลองใช้อีเรฟ (erev) แล้ว ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวว่า “หมดไปเยอะกว่าจะมาเจออีเรฟ” และก็กลายเป็นลูกค้าประจำ ซื้อซ้ำ บอกต่อกันเรื่อยๆ
ทำไมใช้ “อีเรฟ” แล้วถึงได้ผลดี?
แนวทางการแก้ปัญหาต้นไม้ของ “อีเรฟ” เป็นการแก้ที่ต้นเหตุ คือการกำจัดศัตรูพืช ไปพร้อมๆกับการให้ธาตุอาหารทางใบแก่พืชในคราวเดียวกัน เพื่อฟื้นฟูต้นไม้ให้กลับมาแข็งแรง มีใบเขียวแน่นอีกครั้ง
เพราะในช่วงที่ศัตรูพืชระบาด เขาจะดูน้ำเลี้ยง (น้ำหวาน) และทำลายท่อน้ำเลี้ยงเสียหาย ต้นไม้จึงไม่สามารถลำเลียงธาตุอาหารจากรากเพื่อส่งไปสังเคราะห์แสงที่ใบได้ เป็นเหตุให้ต้นไม้อ่อนแอ ใบเหลือง ใบไหม้ ใบร่วง เราจึงจำเป็นต้องฉีดพ่นธาตุอาหารทางใบโดยตรงแทน
จึงไม่แปลกใจที่ลูกค้าใช้อีเรฟ ใช้ขวดสีแดง (กำจัดเพลี้ย เชื้อรา) และขวดสีเขียว (ธาตุอาหารพืช) ผสมพ่นพร้อมกัน จึงเห็นผลได้อย่างชัดเจนว่า “เพลี้ยหาย ต้นไม้กลับมาแข็งแรง” อีกครั้ง
ข้อมูลผลิตภัณฑ์กำจัดเพลี้ย เชื้อรา และธาตุอาหารพืช “อีเรฟ”
1. ส่วนผสมจากธรรมชาติ:
“อีเรฟ” ผลิตจากจุลินทรีย์บริสุทธิ์เข้มข้นหลากหลายสายพันธุ์ ปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ และสิ่งแวดล้อม แตกต่างจากยาฆ่าแมลงที่มีสารเคมีทั่วไป เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เกษตรกรจำนวนมากเลือกใช้ “อีเรฟ”
2. กลไกการทำงานที่มีประสิทธิภาพ:
เอ็นโดสปอร์ที่ได้จากการเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์ ของ “อีเรฟ” เป็นแบคทีเรีย เชื้อรา กลุ่มที่เป็นปฏิปักษ์ต่อศัตรูพืช สามารถทำลายระบบการหายใจของแมลงศัตรูพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการทำให้แมลงเกิดความเครียด จนทำให้ไม่สามารถดำรงชีวิตและขยายพันธุ์ได้
- ฉีดพ่นโดนไข่ ไข่ฝ่อ
- ฉีดพ่นโดนตัวระบบดูดอาหาร ระบบสูบพันธุ์ถูกทำลาย
3. การลดโอกาสในการเกิดการดื้อยา:
การใช้ “อีเรฟ” ในการควบคุมแมลงศัตรูพืช ช่วยลดโอกาสในการเกิดการดื้อยาจากการใช้สารเคมีซ้ำๆ
4.ปลอดภัย:
การใช้ “อีเรฟ” ไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อพืชผล มนุษย์ หรือแม้กระทั่งสิ่งมีชีวิตที่เป็นประโยชน์ เช่น แมลงผสมเกสรและศัตรูธรรมชาติของศัตรูพืช
- ขณะฉีดพ่น ไม่ต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันอันตราย
- หลังฉีดพ่น สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตรับประทานได้เลย โดยปราศจากสารเคมีตกค้าง
ซึ่งผู้ปลูกกุหลาบสามารถนำดอกกุหลาบไปทำ “น้ำกุหลาบ” ได้ด้วย ซึ่งมีน้อยคนที่จะทราบถึงประโยชน์ของน้ำกุหลาบ
10 ประโยชน์น้ำกุหลาบ (Rose Water) มีน้อยคนที่จะรู้
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ ทำให้ “อีเรฟ” กลายเป็นตัวเลือกที่ดีและมีประสิทธิภาพสำหรับวิธีกำจัดเพลี้ยในกุหลาบแบบธรรมชาติ รวมทั้งการจัดการศัตรูพืชในแปลงผักสวนครัว รั้วต้นไม้ไทรเกาหลี ต้นไม้อื่นๆ เป็นต้น
สนใจ ทักข้อความปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านโรคพืช และสั่งซื้อในราคาพิเศษได้เลย
อ่านบทความ “วิธีกำจัดเพลี้ยแบบปลอดภัย ในแปลงผักสวนครัว“